วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Mod Rewrite Syntax การเขียน .htaccess อย่างง่ายช่วยย่อ url ที่ยาวให้สั้นลงและมีผลต่อการทำ seo

Mod Rewrite  จะเป็นการเขียนคำสั่ง ให้ลิงค์เว็บไซต์ หรือ URL ให้สั้นลงดูแล้วสะอาดตา ช่วยในการ ทำ SEO ได้ดีขึ้น เพราะ Google มันจะชอบลิงค์สั้นอ่านแล้วเข้าใจง่ายมีความหมาย (อันนี้อ่านเจอจากเว็บต่างประเทศ)  Mod Rewrite มันก็จะช่วยซ่อน URL ที่ยาวและมั่วให้อยู่ในรูปแบบ URL ที่สั้นและสวยงามมีความหมาย



คำสั่ง Mod Rewrite ที่เขียนนั้นจะต้องบันทึกเป็นไฟล์ .htaccess ไว้ใน Directory ของเว็บไซต์ ซึ่ง Syntax Mod Rewrite หรือคำสั่งที่ใช้ในการเขียนก็ตั้งแต่ Basic จนถึง Advance ตอนนี้เราก็มาดูคำสั่งแบบ Basic ที่ใช้กันส่วนมากกันก่อนครับ

การที่จะให้งานคำสั่ง Mod Rewrite ได้นั้นจะต้องตั้งค่า httpd.conf  Mod Rewrite ใน Appserv ก่อนนะครับ แล้ว การเขียนคำสั่งใน Appserv กับ IIS จะไม่เหมือนกันนะครับ แต่คล้ายๆกัน แต่ผมจะแนะนำการเขียนใน Appserv นะครับเพราะส่วนใหญ่จะใช้ Appserv กัน

ไฟล์ .htaccess

#คำสั่งแรก RewriteEngine On เป็นคำสั่งเปิดใช้งาน mod rewirte เครื่อง # เป็นเครื่องหมายที่ใช้ในการ Comment
RewriteEngine On


#คำสั่ง RewriteBase คำสั่งให้สามารถให้งานฟังก์ชั่นของ PHP Version ต่ำกว่า Version ปัจจุบันได้ หรือสามารถอ่านคำสั่งอักขระพิเศษที่ Server ปิดการใช้งานไว้ อันนี้ตามที่ผมเข้าใจ
php_flag register_globals on

#คำสั่งเรียกที่พาสของเว็บไซต์ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ถ้าเก็บไฟล์เว็บไว้ในโฟล์เดอย่อยไปอีกก็จะเขียน เช่น RewriteBase / helloworld คือเราเก็บไฟล์เว็บไว้ใน www/helloworld ถ้าไม่มีก็ใส่แค่ ส่วนใหญ่จะเป็นทดสอบใน localhost

RewriteBase

#คำสั่ง RewriteRule เป็นการกำหนดเงื่อนไขที่จะทำการแปลง URL เช่น

RewriteRule

ส่งค่าตัวแปรเดียว
#RewriteRule ^(.*)$ ?option=topic&view=detail&name1=$1
#RewriteRule ^([a-zA-Z0-9_-]+)$ ?option=topic&view=detail&name1=$1
#RewriteRule ^(.*).html$ ?option=topic&view=detail&name1=$1

ส่งค่ามากกว่า 1 ตัวแปร

#RewriteRule ^(.*)-^(.*)$ ?option=topic&view=detail&name1=$1&name2=$2
#RewriteRule ^(.*)-^(.*).html$ ?option=topic&view=detail&name1=$1&name2=$2


^(.*)$  ความหมายคือ ส่งค่าอะไรมาก็ได้
^([a-zA-Z0-9_-]+)$ ความหมายคือ ค่าที่ส่งมาได้เฉพาะค่าที่กำหนดเท่านั้น คือ 0-9 กับอักษร a-z A-Z เท่านั้น

โดยจะส่งค่าไปที่ตัวแปร $1 จะเป็น ID หรือ ชื่อหัวข้อก็ได้ เวลาจะเรียกก็อย่าง เช่น

www.example.com/rewriterule  อันนี้เป็น URL Mod Rewirte
www.example.com/rewriterule.html  อันนี้เป็น URL Mod Rewirte
www.example.com/?option=topic&view=detail&name=rewriterule  อันนี้เป็น URL จริงที่ทำงานอยู่ภายใน

#คำสั่ง ErrorDocument 404 เป็นคำสั่งตรวจสอบไฟล์ 404 คือไม่พบไฟล์ที่ส่งมา โดยจะต้องสร้างไฟล์ 404.htnl ไว้ใน Directory ของเว็บไซต์ วิธีเขียน

ErrorDocument 404 /helloworld/404.html

สรุปไฟล์  .htaccess

RewriteEngine On
RewriteBase / hellworld
#กรณีทดสอบใน localhost ใส่พาสที่อยู่ของเว็บ RewriteBase / hellworld
RewriteRule ^(.*)$ ?option=topic&view=detail&name1=$1
#เวลาเรียก URL เช่น  www.example.com/rewriterule
ErrorDocument 404 /helloworld/404.html

การตั้งค่า Appserv ให้สามารถใช้งาน htaccess rewrite ได้ 


ตัวอย่างเว็บที่ทำ Mod Rewirte .htaccess

http://www.perfectdesignkorat.com/

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ฟังก์ชั่นตัดจุศนิยม 2 ตำแหน่งโดยไม่ปัดเศษ Decimal Point Function


ฟังก์ชั่นตัดจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง ไม่ปัดเศษ
กรณีโปรแกรมตัดเกรด โปรแกรมคำนวนเกรดเฉลี่ย
<?
function strDec($str){
$ex = explode('.',$str);
$s = substr($ex[1],0,2);
if($s == ''){
$s = '00';
}
if($ex[0] == ''){
 $ex[0] = '0';
}
$dec =  $ex[0].".".$s;
return $dec;
}

//เรียกใช้ฟังก์ชั่น strDec

echo "ผลลัพธ์ =".strDec('35.3335');

//ผลลัพธ์ คือ ผลลัพธ์ = 35.33
?>

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

การตั้งค่า Appserv ให้สามารถใช้งาน htaccess rewrite ได้ (Mod Rewrite ใน Appserv ที่ลงกันบน Windows)

Mod Rewrite ใน Appserv ที่ลงกันบน Windows หรือที่ส่วนใหญ่ลงกันในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเอง เพื่อทดสอบเว็บ หรือทำเว็บต้นแบบครับ

โดยปกติตัว Mod Rewrite ของ Appserv จะ ไม่ได้เปิดไว้โดย Default เราต้องไปเปิดเองครับ ผมมีวิธีง่าย ๆ จะอธิบายด้วยภาพด้านล่างนี้ครับ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังทำไม่ได้หรือยังไม่เคยทำหรือกำลังคิดจะทำ จะได้ดูเป็นตัวอย่างครับ มาเริ่มกันเลย

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

10 จุดสุดยอดในการใช้ KEYWORD ในการทำ SEO

Keyword ในการ ทำ seo

การใช้ Keyword ในการ ทำ seo  Search engine Optimization หลายคนที่เป็นมือใหม่ อาจจะไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับ ผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่ามัวเสียเวลาครับเริ่มต้นกันเลยดีกว่า
1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา ตัวอย่างการใช้งาน [title] keyword หลัก, keyword รอง, keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น

2. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading Tag) โดยการใช้ h1,h2,h3 เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งาน [h1] Keyword [/h1] หรือ [h2] Keyword [/h2] เป็นต้น
3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้ ตัวอย่างการใช้งาน [body][p] Keyword [/p][/body]
4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com "] Keyword [/a]
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The Last Content) เพื่อเน้นย้ำ หรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนาก็ได้ครับ ตัวอย่างการใช้งาน [p] Keyword [/p] [/body]
6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop Down Menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ ตัวอย่างการใช้งาน [form] [option] Keyword [/option] [/form]
7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder Name, File Name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับ กับการทดลองใช้ในหลายๆเว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1 พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย “-” เป็นตัวคั่นกลาง ตัวอย่างการใช้งาน /Keyword/Keword.html,Keyword.jpg หรือ Keyword1-Keyword2.html
8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images Alt Tag) การ ใช้ Tag Alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Serach Engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Search Engine รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ Tag Alt นี้เข้าช่วย ตัวอย่างการใช้งาน [img src="images address" alt="Keyword"]
9. ใช้ keyword ที่บริเวณคำอธิบาย ลิงค์ (Text Link Title) การใช้ Text Link Title นั้นคล้ายการใช้ Tag Alt เพียงแต่ Tag นี้ใช้อธิบาย Link ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com " title="Keyword"]Keyword [/a]
10. ใช้ Keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain Name Register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain Name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ
เขียนโดย SEO Gang
อ้างอิง : http://seoinwgang.blogspot.com

สร้าง web ด้วยการเข้าใจ SEO

ทำ seo

เพื่อให้แน่ใจว่า website ของคุณถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานของsearch engines และเพื่อให้แน่ใจว่าองค์ประกอบเหล่านี้เข้ากันได้ดีกับการออกแบบwebsiteของคุณ

โครงสร้างURL


ไม่ต้องใส่ใจกับการใช้ page ID กับ URL ของคุณ แต่จงเปลี่ยน URL เป็นโครงสร้างคำไม่ได้เพียงแต่ช่วยคุณในเรื่อง ทำ SEO แต่ช่วยให้ผู้ใช้งาน
ของคุณรู้ว่า page นี้พูดถึงอะไร เช่น  http://www. yousite com/product.php?page_id=41 จะดีกว่มั้ยหากคุณเปลี่ยนมันให้เป็น
http://www.yousite.com/product/shoes/ ถ้าคุณกำลังใช้  Wordpress กับ web ของคุณ คุณก็สามารถจัดการมันด้วยวิธีง่ายๆแค่ไปที่ Settings > Permalinks > และenter /%postname%/ เหมือนเป็นการปรับปรุงโครงสร้างให้ดีขึ้น และจะยิ่งดีใหญ่ถ้าคุณจะแก้ URL ให้เป็นภาษาไทยด้วยเพราะคุณอยู่ประเทศไทย เนื่องจากคนไทยเองนั้นก็ใช้คำภาษาไทยในการค้นหาอยู่แล้ว เช่นคุณอาจแก้ 
จาก http://www. yousite com/product.php?page_id=41 เป็น http://www.yousite.com/product/shoes/ แต่ผมอยากจะให้คุณ
แก้มันอีกครั้งเป็น http://www.yousite.com/product/รองเท้า/ มันก็จะช่วยคุณได้ในอีกระดับนึง และอีกเรื่องนึงการคือ อย่าลืมเปลี่ยน เปลี่ยน Non-www ไปเป็น WWW ให้เรียบร้อยด้วยนะครับ

ใช้Flashในปริมาณที่เหมาะสม


จำนวน  Flash หลายอันใน web ของคุณมันก็ไม่ได้แย่นักแต่มันจะมากเกินไป search engines มีข้อจำกัดในการอ่าน เพราะฉะนั้นอย่าพยายามใส่
ข้อความสำคัญๆ หรือ Keyword ไปในนั้น และห้ามสร้าง website ทั้งหมดโดยใช้ Flash เด็ดขาดเพราะมันจะเป็นเกราะป้องกันบทความ ข้อความ
ในwebของคุณจาก search engines แถมยังทำให้หลุดจาก keywords แล้วมันก็จะกลายเป็นภาษาต่างดาวไป

ยิ่งไปกว่านั้น  google มี   instant preview feature นั่นคือการปรีวิวเพจก่อนที่จะคลิกเข้าดู
google preview

ภาพตัวอย่าง : instant preview feature
แต่หากคุณใช้ Flash ในส่วนไหนส่วนนั้นก็จะกลายเป็นช่องว่างไป หลายคนอาจเข้าใจผิดชอบทำเว็บ Flash ทั้งเว็บเพราะเห็นว่ามันสวยดี แต่มัน
กลับมีข้อเสียอย่างรุนแรงกับทาง SEO

แสดงภาพตัวอย่าง instant preview feature จาก Goole การใช้ Flash ที่ถูก และ ผิด



instant preview feature ที่ใช้ Flash ในเว็บอย่างถูกต้อง
ภาพตัวอย่าง : instant preview feature ที่ใช้ Flash ในเว็บอย่างถูกต้อง
นี่คือภาพตัวอย่างสำหรับการใช้ Flash ทำเว็บอย่างถูกต้องคือการใช้ในปริมาณที่เหมาะสม Preview แล้วยังมองเห็นรูปร่างเว็บอยู่ ส่วน Flash ก็จะเป็นช่องว่างไป ซึ่งนั้นก็ไม่มีผลอะไรมากนัก เพราะยังเห็นข้อมูลส่วนใหญ่ของเว็บอยู่

instant preview feature ที่ใช้ Flash ในเว็บที่ผิด
ภาพตัวอย่าง : instant preview feature ที่ใช้ Flash ในเว็บที่ผิด

นี่คือภาพตัวอย่างสำหรับการใช้ Flash ทำเว็บที่ผิดจะเห็นได้ชัดเลยว่า instant preview feature ไม่สามารถที่จะ Preview อะไรได้เลย

Heading Tags


Heading Tags จากแถว  H1 ถึง H6 และจะเป็นการดีที่แยก  topic  ออกจากกันและให้  titleในแต่ละหน้า เมื่อออกแบบบทความในแต่ละหน้า ให้จำไว้ด้วยว่า มีเพียง H1 tag เดียวเท่านั้น ถ้ามันดูโอเคเป็นธรรมชาติ ก็ให้ใช้  keywords ใน H1 ไปจนถึงจุดสูงสุดที่จะพัฒนาได้

1 topic ต่อ 1 หน้า


ถ้าคุณมีบริการที่หลากหลายก็ไม่ต้องใส่มันลงไป ทั้งหมดใน1หน้า ใช้ homepage เป็นจุดหลักและก็สร้างเมนูสำหรับแต่ละประเภท 1หน้า/1ผลิตภัณฑ์/1บริการ มันจะดูดีกว่า และก็เป็นการง่ายที่ลูกค้าจะหาสิ่งที่พวกเขาต้องการและคุณก็จะรู้สึกขอบคุณตัวเองมากที่ครั้งนึง
คุณจัดระเบียบ web pageของคุณด้วย keywords

อย่าใช้ IFrames


IFramesก็เป็นเพียงแค่ทางเข้าพื้นฐานจากหน้าอื่นๆภายใน web ของคุณ ซึ่ง search engines ก็ไม่สามารถอ่านข้อมูลที่อยู่ในหน้านั้นได้มันก็เพราะ
เหตุผลมันจึงไม่มีประโยชน์อะไร และสำหรับองค์ประกอบส่วนใหญ่ของ website Iframes ไม่นิยมใช้เท่าไหร่แต่กับ web ใหญ่ๆบางเวปเช่น  Amazon.com  และ เวปสำหรับพยากรณ์อากาศ จะใช้  IFrames เพื่อให้ผู้ชมสามารถแสดงเนื้อหาลงใน website ส่นตัวได้อย่างง่ายๆ

การสร้างแรงดึงดูด


อัตราการเข้าชม website ของคุณมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่ ถ้ามันยังไม่ได้เปลี่ยนมันก็ไม่มีประโยขน์อะไร หลายต่อหลายคนไม่เข้าใจและไม่เห็น
ค่าของ  conversion optimization  แต่มันเป็นการพัฒนาการสะท้อนกลับและอัตรการแปรผัน  วิธีง่ายๆในการปรับปรุงจำนวนการโทรสั่งสินค้า
,e-mail, ตำแหน่งนำ ผู้ใช้บริการ หรือไม่ว่าคุณจะใช้เป็นการระบุการเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นการชัดเจนว่าการสร้างแรงดึงดูดของคุณมีผลต่อลูกค้า ถ้าพวกเขากรอกข้อมูลสมัครสมาชิกหรือโทรหาคุณ ก็แน่ใจได้เลยว่าข้อมูลที่อยู่หน้าพวกเขานั้นไม่พลาดเป้า

ข้อความในภาพ


Webmaster หลายๆคนมักจะวางข้อความไว้ในภาพก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องการโชว์ font เก๋ๆหรือพวกเขาแค่ไม่เข้าใจHTML ดีเท่าไหร่ ว่า search engines มันอ่านอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในรูปภาพไมได้ อืม.....เอาเป็นว่าแค่ไม่ต้องไปทำมันแล้วประหยัดเวลาด้วยการทำอะไรที่ถูกต้อง
ไปเลยดีกว่า

JavaScript ภายใน Navigation


เมื่อคุณใช้ JavaScript โชว์ใน navigationของคุณ  หน้าเวปที่เลื่อนลงกับตัวลิงค์ก็ต้องไปในทิศทางเดียวกัน  มันสามารถสร้างให้เป็นกำแพง
สำหรับsearch engines เพราะเวลาอ่านมันจะยาก.Javascriptจะ ไม่ตัด และฝืดเท่ากันกับ HTML และเพราะว่ามีเป็นล้านๆวิธีที่จะสร้างผลงาน
ที่เหมือนกันออกจาก JavaScript มันเป็นการสร้างความสับสนให้ search engines จริงๆ

โครงสร้าง Navigational


การรักษาโครงสร้าง navigational ของคุณให้เรียบง่าย มันเป็นความสามารถของบางคนเท่านั้น ประเภทของการใช้งาน ใช้หน้าหลัก และไม่ต้อง
ยกเว้นหน้าสำคัญจาก  navigation แต่ถ้าคุณอยากให้ลูกค้าซื้อของหรือเห็นบริการ ก็ใส่มันลงไปในเมนูด้วย

ถึงผมจะสนุกกับ web นี้แต่ก็อยากให้ลองดู เพราะมันเป็นตัวอย่างของโครงสร้าง navigational ที่สับสนลองดู เว็บนี้

โครงสร้าง Navigational


สิ่งแรกที่เวลาคนเข้ามาดู web ของคุณพวกเขาน่าจะเห็นhomepageของคุณ เชยและไม่มีความน่าสนใจ เมื่อใช้splash pageที่ถูกใช้แล้ว มันเป็นการแสดงข้อมูลที่ไม่มีความจำเป็น ระหว่างคุณกับลูกค้า ซึ่งจะมีผลกระทบต่อfeedbackและจำนวนคลิก

ทำตัวเป็นBlogger


Search engines ชอบที่จะค้นหาเนื้อหาใหม่ๆและการใช้ blog เป็นวิธีที่ดีที่จะเก็บรักษา web ของคุณให้อัพเดตตลอด  การมีเนื้อหาใหม่อย่างต่อ
เนื่องเป็นการช่วยให้ข้อมูลกลับมาที่ bot  และยังช่วยให้คุณจัดอันดับสำหรับkeywordsยาวๆได้ SEO blog ของเราเป็นตัวอย่างที่ดี
ของบล๊อกที่ใช้เนื้อหาใหม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม ไอที

ใส่ใจในความเร็วของweb


ถ้า web ของคุณใช้เวลาโหลดนานมากมันคงทำให้ผู้ชมหมดความอดทน search engines ก็ไม่ค่อยชอบที่จะรอนัก ดังนั้นความเร็วของ web ก็เป็นสิ่งที่ควรจะใส่ใจ มี HTTP requests เยอะๆ จำนวนรวมของ Javascript, CSS files และ รูปภาพขนาดใหญ่ ก็มีส่วนทำให้ความเร็วของ
web ช้าลง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณได้บ้างนะครับไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วเดี๋ยวพบกันใหม่บทความต่อไปนะครับ

ขอบคุณบทความดีๆจาก ; http://seo.clisk.co.th
อ้างอิง : http://www.seo.com/blog/building-website-seo-mind